ไม่มีสอบ ไม่มีเกรด แล้วเขารู้ได้ไงว่าเก่ง? I Not My School EP.4

Not My School โรงเรียนที่โลกใช้ แต่ไทยไม่เคยเล่า

ฟินแลนด์ ฟรานซ์ และอีกหลายประเทศเริ่มเลิกสอบ! แล้วรู้ได้ไงว่าเด็กเข้าใจจริง? คลิปนี้จะเฉลยวิธีวัดผลที่เปลี่ยนห้องเรียนให้กลายเป็นที่คิด ไม่ใช่ท่อง


ยินดีต้อนรับสู่ Not My School รายการที่พาคุณไปเปิดห้องเรียนทั่วโลก ที่คนไทยหลายคนไม่เคยเห็น ไม่เคยรู้ และบางเรื่อง…อาจไม่อยากเชื่อว่ามีอยู่จริง

วันนี้เราจะไปยังประเทศที่ “ไม่มีการสอบกลางภาค ปลายภาค” ไม่มี “เกรด A B C D F” ไม่มีแม้แต่คะแนนตัวเลขในสมุดพก
แล้วเขารู้ได้ยังไงว่า เด็กเข้าใจ?

ฟินแลนด์, นอร์เวย์, เดนมาร์ก ประเทศกลุ่มนอร์ดิกหลายประเทศยกเลิกระบบการสอบแบบเดิมตั้งแต่ระดับประถมถึงมัธยมต้น
เด็กไม่ได้ถูกจัดอันดับห้อง ไม่ได้ถูกกดดันด้วยเกรด แต่ติดอันดับ Top 10 ของโลกเรื่อง “ผลสัมฤทธิ์ทางการศึกษา”


ระบบการวัดผลแบบไม่มีเกรด

ฟินแลนด์ เด็ก ป.1–9 ไม่มีการจัดอันดับคะแนน  ไม่มีการสอบกลางภาค ปลายภาค ไม่มีการประกาศผลสอบหน้าเสาธง
ครูใช้ “การประเมินรายบุคคล” หรือ “Formative Assessment” จดบันทึกพฤติกรรมมีการพูดคุยกับนักเรียนและผู้ปกครอง 
และเน้นให้ feedback แทนการตัดสิน
เด็กได้รับ “คำอธิบายความเข้าใจ” เช่น:“นักเรียนสามารถเปรียบเทียบไอเดียได้ดี” หรือ“ยังควรฝึกอธิบายเป็นลำดับขั้น”

นอร์เวย์
นักเรียนประถมไม่ได้รับเกรดใด ๆ จนถึงอายุ 13 ปี ส่วนครูใช้วิธี “ประเมินผ่านโครงงาน” และการสังเกตพฤติกรรมการเรียนรู้

นิวซีแลนด์
ใช้ระบบ Learning Progression Framework โดยครูรายงานความคืบหน้าเป็นแผนภูมิพัฒนาการรายบุคคล

ข้อดีของระบบนี้
– ลดความเครียดของเด็ก 
– เด็กกล้าตั้งคำถาม ไม่กลัว “ตอบผิด” 
– เปิดโอกาสให้โฟกัสที่ “ความเข้าใจ” ไม่ใช่ “คะแนน” 
– ส่งเสริมการเรียนรู้แบบร่วมมือ ไม่ใช่แข่งขัน


นักเรียนฟินแลนด์คิดยังไง?
จากการสำรวจโดย Finnish Education Evaluation Centre (2020):
– 78% ของนักเรียนบอกว่ารู้สึก “ผ่อนคลายและมีแรงจูงใจ” เพราะไม่มีสอบใหญ่ 
– 65% บอกว่าทำให้เรียนเพราะ “อยากรู้” ไม่ใช่ “กลัวตก”


ข้อถกเถียงและคำตอบ

1.ถ้าไม่มีสอบ แล้วจะรู้ได้ไงว่าเด็กเก่งหรือไม่?

การสอบบอกผลเฉพาะ “วันนั้น” แต่การสังเกตต่อเนื่อง สะท้อนพฤติกรรมระยะยาว และการให้ feedback ช่วยให้เด็กพัฒนา “จริง”

2.แล้วจะเข้ามหาวิทยาลัยยังไง?
ฟินแลนด์มี “สอบกลางระดับชาติ” แค่ครั้งเดียวตอน ม.ปลาย เพื่อใช้สมัครมหาวิทยาลัย เป็นระบบเปิดและสอบเมื่อพร้อม ไม่ใช่บังคับสอบครั้งเดียวตัดสินชีวิต

เทียบกับระบบไทย
– ไทยมีการสอบทุกเทอม ทุกวิชา ทุกชั้น 
– คะแนนมีผลต่อทุกอย่าง: เกรด, สอบเข้า, ความภาคภูมิใจ 
– มีปรากฏการณ์ “ติวข้อสอบ” แทนการเข้าใจ 
– นักเรียนกลัว “ผิด” มากกว่า “อยากรู้”

ถอดบทเรียน

1. “ไม่มีเกรด” ไม่ได้แปลว่า “ไม่มีมาตรฐาน” 
2. “ไม่มีสอบ” ไม่ได้แปลว่า “ไม่ประเมินผล” 
3. ครูคือคนประเมินดีที่สุด ถ้าได้รับอิสระและการอบรมที่เหมาะสม 
4. ระบบการศึกษาไม่ควรเอาคะแนนมากำหนดคุณค่าของเด็ก

ถ้าคุณไม่ต้องสอบ…คุณจะยังอยากเรียนอยู่ไหม? และถ้าเราเชื่อว่าการเรียนคือการ “เติบโต” เราจะยังยึดติดกับระบบที่ตัดสินทุกอย่างด้วยคะแนนอีกนานแค่ไหน?


นี่คือ Not My School ตอนหน้า เราจะพาไปดูประเทศที่ “เด็กเริ่มเรียน Coding ตั้งแต่ ป.1” ไม่ใช่แค่ใช้เทคโนโลยี…แต่เขา “สร้าง” มันเอง


แหล่งข้อมูลและอ้างอิง

1. Finnish National Agency for Education (2022). Basic Education in Finland. https://www.oph.fi

2. Finnish Education Evaluation Centre (2020). Student Motivation and Assessment Reports

3. OECD (2021). ‘Formative Assessment in Practice: Case Studies from Finland and Norway’

4. Ministry of Education, New Zealand. Learning Progression Frameworks. https://curriculumprogresstools.education.govt.nz

5. UNESCO (2023). ‘Assessment without Testing: Alternative Approaches Around the World’





upload success
upload fail
File
uploading